- โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน จังหวัดฉะเชิงเทรา
- โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย จังหวัดเพชรบุรี
- โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ จังหวัดเชียงใหม่
- โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำแม่อาว จังหวัดลำพูน
- โครงการศึกษาฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม จังหวัดราชบุรี
- โครงการทดลองแก้ปัญหาดินเปรี้ยว จังหวัดนครนายก
- โครงการหญ้าแฝก
- โครงการแกล้งดิน
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดฉะเชิงเทรา โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน จังหวัดฉะเชิงเทรา ตั้งอยู่ที่หมู่ 1,2,3,4,5,6,7,8,9,10,11,12, 13,14 ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม หมู่ที่ 5,7,8,13,15 ตำบลเกาะขนุน อำเภอพนมสารคาม ขอบเขตพื้นที่โครงการจำนวน 1,895 ไร่ และมีพื้นที่ขยายผล 153,383 ไร่ อยู่ระหว่างพิกัด N : 1519827-1522807 E : 770380 - 772254 WGS84 L7018 ระวางแผนที่ 5236 I , II 5336 III , IV
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พุทธศักราช 2522 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน ทรงเปิดศาลบวรราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ราษฎรได้น้อมเกล้าฯ ถวายที่ดิน หมู่ที่ 2 ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 264 ไร่ พระองค์ได้เสด็จฯ ทอดพระเนตรที่ดินดังกล่าว และทรงมีพระราชดำริ กับเจ้าหน้าที่อำเภอ จังหวัด และหน่วยราชการต่าง ๆ ได้แก่ กรมพัฒนาที่ดิน กรมชลประทาน กรมป่าไม้ กรมปศุสัตว์ ให้ร่วมกันพัฒนาพื้นที่แห่งนี้จัดทำเป็นศูนย์ศึกษาตัวอย่าง สาธิตการพัฒนาด้านการเกษตรกรรมและงานศิลปาชีพ เพื่อเป็นแหล่งให้เกษตรกรตลอดจนผู้สนใจได้เข้าชมศึกษาค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมได้ จากพระราชดำริข้างต้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งภาคเอกชนได้ประชุมปรึกษาหารือกัน มอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดินเป็นหน่วยงานหลัก ดังนั้นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารงานขึ้นคณะหนึ่ง เรียกว่า "คณะกรรมการบริหารและกรรมการที่ปรึกษาศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา" คณะกรรมการบริหารฯ ได้ทำหนังสือในนามของ กรมพัฒนาที่ดิน กส. 1801/1094 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2523 ถึงสำนักราชเลขาธิการ เพื่อนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาขอรับพระราชทานชื่อของศูนย์เพื่อเป็นสิริมงคลแก่การดำเนินโครงการสนองพระราชดำริสืบไป และทางสำนักราชเลขาธิการได้แจ้งให้ทราบตามหนังสือ ที่ รล.002/3041 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2523 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ชื่อว่า "ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา"
1.เพื่อยกระดับรายได้ของเกษตรกรในบริเวณลุ่มน้ำห้วยเจ็กและห้วยน้ำโจน ซึ่งอยู่ในเขตตำบลเขาหินซ้อนและตำบลเกาะขนุน มีพื้นที่ปริมาณ 56,000 ไร่ มีรายได้พอเพียงต่อการยังชีพ คือ ประมาณ 20,000 บาทต่อครอบครัวต่อปี และจะใช้พื้นที่เป็นพื้นที่พัฒนาตัวอย่าง เพื่อให้ศึกษาแนวทางการพัฒนาท้องที่อื่นๆต่อไป 2.เพื่อเป็นแหล่งศึกษาทางวิชาการ ในการหาลู่ทางพัฒนาการเกษตร และอาชีพของเกษตรกรในภาคตะวันออกโดยเฉพาะในจังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดปราจีนบุรี 3.เพื่อเป็นแหล่งฝึกอบรม ให้ความรู้ทางวิชาการด้านการเกษตรและด้านศิลปาชีพพิเศษแก่เกษตรกร 1.จัดทำการเกษตรทฤษฎีใหม่และการเกษตรผสมผสาน 2.จัดทำพื้นที่นำร่องการปลูกพืชสมุนไพร 3.สาธิตและส่งเสริมการเพิ่มศักยภาพของที่ดินเพื่อปลูกมันสำปะหลัง 4.สาธิตและผลิตกล้าหญ้าแฝกเพื่อปลูกและเพื่อแจกจ่าย 5.จัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ 6.ขุดลอกลำห้วยธรรมชาติ 7.จัดทำทางลำเลียงในไร่นา บ่อน้ำประจำไร่นา อาคารชะลอน้ำล้นท่อลอดระบายน้ำ ซ่อมแซมทางลำเลียงในไร่นา 8.ปรับรูปแบบแปลงนา ปรับปรุงพื้นฟูพื้นที่บ่อทรายร้าง 9.อบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร การทำบัญชีฟาร์ม และอบรมการทำขนมจากแป้งฟลาวมันสำปะหลัง การเกษตรทฤษฎีใหม่การจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำปรับรูปแบบแปลงนาขุดลอกลำห้วยธรรมชาติบ่อน้ำประจำไร่นาอาคารชะลอน้ำโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่ ตำบลสามพระยา อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี บริเวณศูนย์อำนวยการโครงการพัฒนา กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ตั้งอยู่ระหว่างค่าพิกัด X = 596000 – 601000 และระหว่างค่าพิกัด Y = 1400000 - 1407000 ในระบบ WGS84 บนแผนที่ประเทศไทย ลำดับชุดที่ L7018 ระวางแผนที่ 4934 II มีพื้นที่ทั้งหมดของโครงการ 22,627 ไร่
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ในเขตพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ตำบลสามพระยา อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี อันเป็นพื้นที่ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีประกาศพระบรมราชโองการให้เป็นที่หลวงเมื่อปี 2466 และ ปี 2467 เดิมพื้นที่แห่งนี้มี สภาพป่าไม้เป็นที่อุดมสมบูรณ์มีสัตว์ป่าประเภทเนื้อทรายอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้ชื่อว่า “ ห้วยทราย ” ต่อมาราษฎรได้เข้ามาอาศัยทำกินบุกรุกแผ้วถางป่า และได้ประกอบอาชีพตามยถากรรม ภายในเวลาไม่ถึง 40 ปี ป่าไม้ได้ถูกทำลายโดยสิ้นเชิง ทำให้ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล และมีปริมาณลดน้อยลงจนมีลักษณะเป็นพื้นที่อับฝน ดินขาดการบำรุงรักษาจนเกิดความไม่สมดุลย์ทางธรรมชาติ การพังทลายของผิวดินค่อนข้างสูง ประกอบกับราษฎรส่วนใหญ่ปลูกสับปะรดซึ่งต้องใช้สารเคมีมาก ทำให้คุณภาพของดินตกต่ำลงไปอีก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสว่า “ หากปล่อยทิ้งไว้จะกลายเป็นทะเลทรายในที่สุด ” เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2526 ได้พระราชทานพระราชดำริกับหม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ องคมนตรี และนายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้พัฒนาเป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาด้านป่าไม้เอนกประสงค์ จัดให้ราษฎรที่ทำกินอยู่เดิมมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่าไม้ ได้ประโยชน์และไม่ทำลายป่าไม้อีกต่อไป มุ่งที่จะศึกษารูปแบบการพัฒนาเกษตรควบคู่ไปกับการปลูกป่า จัดหาแหล่งน้ำ ศึกษาวิธีการและระบบป้องกันไฟไหม้ป่าใน “ ระบบป่าเปียก ” ให้ราษฎรสร้างรายได้จากผลิตผลป่าไม้และปลูกพืชชนิดต่างๆ ควบคู่ไปด้วย และให้ราษฎรที่เข้ามาทำกินโดยมิชอบได้เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อที่จะได้รับพระราชทานที่ดินทำกินต่อไป 1.เพื่อสาธิตวิธีการปรับปรุงบำรุงดินด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การใช้ปุ๋ยพืชสด ปุ๋ยหมักและปุ๋ยอินทรีย์น้ำ การใช้ปูนมาร์ล โดโลไมท์ เป็นต้น 2.เพื่อศึกษาแนวทางในการเพิ่มผลผลิตพืชด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การใช้ปุ๋ยหมักและปุ๋ยอินทรีย์น้ำ สารป้องกันกำจัดแมลงจากพืชสมุนไพร เป็นต้น 3.เพื่อเผยแพร่วิธีการอนุรักษ์ดินและน้ำในรูปแบบต่างๆ เช่น การสร้างคันดินเบนน้ำ คันดินกักเก็บน้ำ หรือบ่อดักตะกอนดิน และคันดินกั้นน้ำ เป็นต้น 4.เพื่อเผยแพร่วิธีการใช้ประโยชน์หญ้าแฝกในรูปแบบต่างๆ เช่น การปลูกหญ้าแฝกในร่องน้ำ ขวางความลาดเทของพื้นที่ แบบวงกลม ครึ่งวงกลมรอบโคนต้นไม้ เป็นต้น 5.เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการพัฒนาที่ดินตามแนวพระราชดำริ ให้กับเกษตรกร ประชาชน นิสิต นักศึกษา ตลอดจนนักวิชาการที่มีความสนใจ 1.กิจกรรมงานจัดทำระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ 2.กิจกรรมงานสาธิตการใช้ปุ๋ยพืชสด 3.กิจกรรมงานสาธิตการทำและการใช้ปุ๋ยหมักและปุ๋ยอินทรีย์น้ำ 4.กิจกรรมงานส่งเสริมและรณรงค์การใช้ประโยชน์หญ้าแฝก สร้างบ่อดักตะกอนสาธิตการใช้ปุ๋ยพืชสดสาธิตการทำและการใช้ประโยชน์ปุ๋ยหมักกลับหน้าหลัก
วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)